ติดตามเรื่องราว

..เรียนรู้ จากความยาก..-
บางทีการทำให้เส้นทางสู่ความจริงคดเคี้ยวมากขึ้นสักหน่อยเพื่อให้เกิดระทางที่ยาวไกลขึ้นอาจจะเป็นสิ่งดีสำหรับชีวิตที่ต้องการเวลากับการค้นหาความหมาย นั่นล่ะ -PBL




วันอังคารที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2556

เช้าวันใหม่ที่ไร้ความหมาย

ท่ามกลางแสงแดดร้อนเปรี้ยงตอนแปดโมงครึ่ง  เด็กๆ  ยืนอาบเหงื่อชุ่มโชกเพื่อทำกิจกรรมหน้าเสาธง ทั้งที่ครูส่วนใหญ่ยืนดูอยู่ในร่มเพราะกลัวใบหน้าเป็นฝ้า  เด็กหลายคนแสดงอาการหงุดหงิดเบื่อหน่ายรำคาญใจ  บางคนยังง่วงหาว  บางคนหาทางหลบเลี่ยงจากความทุกข์ทรมารนี้โดยการมาให้สาย หนีแถว หรือไม่ก็โดดเรียนวิชาแรกแม้จะรู้ว่าถึงอย่างไรก็ไม่อาจหนีพ้นทัณฑกรรมตามแบบฉบบับของกระทรวงฯ หรือของโรงเรียนไปได้แต่พวกเขาก็อยากลองเสี่ยงดู    เมื่อถึงเวลาร้องเพลงชาติเด็กบางคนก็เปล่งเสียงร้อง บ้างก็ทำแค่เสียงงึมงำในลำคอในท่วงทำนองอันเคยชินแบบที่อยากให้มันเสร็จๆ ไป   เสร็จจากกิจกรรมทุกอย่างก็เป็นคิวของครูเวรขึ้นอบรมสั่งสอนอย่างยาวนานเท่าที่ครูคนนั้นจะรู้สึกสาแก่ใจ  โดยที่ไม่เคยนึกถึงเด็กๆ สักนิดว่าจะมีสักคนที่ยืนฟังด้วยความซาบซึ้งพึงใจ  นี่หรือที่เราเรียนว่าการปลูกฝังความรักชาติ  กระทรวงศึกษาธิการหรือโรงเรียนทำได้แค่นี้หรือ  ครูกลัวกฎระเบียบอันคร่ำครึเสียจนไม่รู้ว่าจะทำให้ดีกว่านี่ได้อย่างไรเชียวหรือ  เราไม่รู้หรือแกล้งไม่รู้กันแน่ว่าวิธีแบบนี้ไม่ค่อยได้ผลสักเท่าไหร่ 
อาจจะยากถ้าจะยุบกระทรวงฯ เสีย

แต่ก็ไม่ยากเกินไปที่จะเปลี่ยน  โดยตั้งเจตนารมณ์ให้ชัดและจริงว่าเราจะได้ฉกฉวยโอกาสตอนที่ทุกคนได้มารวมตัวกันเพื่อทำให้เกิดสิ่งใด    เปลี่ยนที่เข้าแถวให้สบายขึ้นถ้าเป็นไปไม่ได้ก็ปรับระยะเวลาให้สั้นลง  เปลี่ยนบรรยากาศตอนทำกิจกรรมระหว่างครูกับเด็กให้เป็นมิตรมากขึ้น  ปรับกิจกรรมให้มีความหมาย   ประเมินดูด้วยใจทั้งใจเด็กใจครูอยู่เนืองๆ   
เท่านี้ ทั้งเด็กๆ และครู ก็ได้รับการเริ่มต้นวันใหม่ที่ดีๆ

วันพฤหัสบดีที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2556

โลกภายนอกสะเทือนใน


วันนี้ได้รับemail จากคนที่ไม่เคยรู้จัก  ในจดหมายเธอฟูมฟายขอร้องว่าเธอไปสัมมนาที่ไซปรัชแล้วทำกระเป๋าหายทั้ง ร้องขอให้ผมช่วยค่าห้องค่าเสื้อผ้าสารพัดโดยบอกวิธีจ่ายเสร็จสรรพ   โอ้หนอ! ผมอดรำพึงรำพันไม่ได้   ทำไมเธอจึงขอมาที่ผมซึ่งอยู่ห่างไกลกันแสนไกล  ถ้าผมไม่ให้จะกลายเป็นคนใจดำไปไหมนี่  หรือเธอต้องการผลักผมไปในเขตแดนของคนบาปเพื่อจะได้มองตนเองอย่างต่ำค่า  แล้วเรื่องนี้จะแยกแยะจริงเท็จอย่างไร  ถ้ามันปรากฏว่าเป็นเรื่องลวงโลกอยู่ทนโธ่ทำไม่เธอยังทำ  หรือ ธรรมชาติของสัตว์สมองโตถูกสร้างให้ทำเรื่องลวงโลกอยู่แล้วไม่มากก็น้อยทั้งแบบปิดบังและแบบเปิดเผย  นี่อาจจะเป็นปรากฏการณ์เล็กๆ ที่เกิดมาพร้อมกับการเชื่อมถึงกับของโลกโดย ICT แต่ก็สะท้อนชัดว่าขณะที่เราเข้าถึงข้อมูลของกันและกันมากขึ้นก็เป็นไปได้ว่าเรามีโอกาสที่ได้ช่วยเหลือกันมากขึ้น พอๆ กับมีโอกาสที่จะได้ทำร้ายกันมากขึ้น โลกภายนอกกลายเป็นกงล้อใหญ่ที่หมุนเกลียวรัดแน่นวุ่นวายมากขึ้นทุกที ทุกคนเจะถูกลากข้าไปในที่สุด และ มันจะรบกวนโลกภายในของแต่ละคน หล่อหลอมโลกภายในของคนให้เป็นแบบใหม่

วันอาทิตย์ที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2556

กล่าวขอโทษเพื่อปลด “พันธนาการ”



ตื่นแต่เช้าราวตีสี่เช่นเคย เปิด facebook เจอข้อความจากครูคนหนึ่งที่ส่งมาหา  ซึ่งครูคนนี้เคยเป็นครูที่โรงเรียนลำปลายมาศพัฒนาราว 7- 8 ปีก่อน
“คิดถึงครูมากครับ ไม่รู้จำผมได้หรือเปล่า ผมเคยเป็นส่วนหนึ่งของลำปลายมาศพัฒนา  ครั้งหนึ่งที่เคยตัดสินใจทิ้งทุกคนไปเพียงเพราะความน้อยใจและอวดเก่ง ผมได้ละทิ้งความฝันของตนเองและละทิ้งเด็ก เพราะความคิดวูบเดียว  จากเหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้ผมต้องย้ำคิดให้ดีก่อนทำอะไรทั้งเป็นเครื่องเตือนสติในการทำงานเสมอมา โดยได้ครูเป็นแบบอย่างทั้งการกระทำและความคิด ผมจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด และอยากกราบขอโทษครูทั้งกาย วาจา อยากให้ครูรักษาสุขภาพเพื่อเป็นที่รักของเราตลอดไป”
น่าทึ่งที่ผ่านไปเจ็ดปีแล้ว แต่เขากลับไม่ลืมกับความรู้สึกเสียใจครั้งกระโน้น  แต่ผมก็รู้สึกดีมากที่เขาได้ปลกปล่อยโซ่ตรวนที่พันธนาการใจไว้  ทันทีที่เรากล่าวคำขอโทษใจเราจะเป็นอิสระ
“ขอโทษ” เราถูกสอนให้พูดออกมาง่ายๆ เมื่อตอนเป็นเด็กจนมันเป็นแค่คำดาษดื่นธรรมดาๆ   แต่เมื่อโตขึ้นทำไมมันจึงเอ่ยออกมายากจัง คนส่วนใหญ่ที่โกรธเคืองกันอยู่ก็เพราะยังไม่มีใครกล่าวขอโทษ  บางทีจุดเริ่มต้นของความขัดเคืองกันนั้นเพียงเล็กน้อยแต่มันสะสมหนักแน่นให้เน่าเสียรุนแรงขึ้น เพียงแค่แต่ละฝ่ายรอการขอโทษ แต่ละคนแต่ละฝ่ายอาจจะรู้สึกว่าตัวเองเป็นฝ่ายถูกบนฐานความคิดของตนเองจึงคิดว่าไม่ใช่ธุระที่จะไปกล่าวขอโทษก่อน  อีกอย่างขณะที่เราค่อยๆ เติบโตขึ้นเราก็ค่อยๆ สะสมความเป็นตัวตนชัดเจนขึ้นใหญ่ขึ้น จนรู้สึกได้ว่าตนเองเป็นก้อนอิสระ สามารถอยู่ได้ด้วยตนเองไม่ต้องง้อใคร ไม่ต้องพึ่งพาใคร อันตัวเราใหญ่นี้ซึ่งเป็นความเข้าใจผิดก็ทำให้ใจปิด การกล่าวคำขอโทษก็ยากตามมา
ไม่มีวันสายสำหรับการกล่าวคำขอโทษ 7 ปีก็ไม่ได้ช้าไปกับการเติบโตทางจิตวิญาณสู่จิตใหญ่อันนอบน้อม จิตใหญ่อันอิสระจะเปิดรับสิ่งดีงามทั้งมวล
ผมมีเหตุการณ์ที่ยังไม่ได้กล่าวคำขอโทษเช่นกัน แม้มันจะผ่านมาแล้วกว่าสิบปี หรือ บางเรื่องก็กว่ายี่สิบปี  จึงเป็นเวลาอันควรที่จะกล่าวขอโทษเพื่อปลด “พันธนาการ”