ติดตามเรื่องราว

..เรียนรู้ จากความยาก..-
บางทีการทำให้เส้นทางสู่ความจริงคดเคี้ยวมากขึ้นสักหน่อยเพื่อให้เกิดระทางที่ยาวไกลขึ้นอาจจะเป็นสิ่งดีสำหรับชีวิตที่ต้องการเวลากับการค้นหาความหมาย นั่นล่ะ -PBL




วันจันทร์ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

ฤดูกาลอันดีงาม


ความทรงจำเรามักจะโยงด้วยความรู้สึกอะไรบ้างอย่างเสมอ เช่น ความรู้สึกปราบปลื้มปีติ ความอบอุ่นปลอดภัย ความกลัว ความประหม่า การเสียหน้า เป็นต้น เหตุการณ์ในอดีตที่ไม่ได้โยงกับความรู้สึกใดๆ เราก็จะลืมเลือนไปอย่างรวดเร็ว
กลางเดือนพฤษภาคมความทรงจำกับช่วงเวลาของการเปิดเรียนปีการศึกษาใหม่เวียนมาอีกรอบ แม้จะผ่านมาหลายปีแต่เรายังจำได้ว่าวันแรกที่ไปโรงเรียนนั้นเป็นอย่างไร อาจจะใช้เวลาตอนนี้สักนาทีเพื่อนึกถึงช่วงเวลานั้น นั่นจะทำให้เรารู้สึกดีขึ้นมาบ้าง ทั้งนี้เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกันกับฤดูกาลเปิดเรียนปีนี้มันทำให้เรารู้สึกอึดอัด และหมองเศร้า
    เราแก้ไขสิ่งที่ผ่านไปแล้วไม่ได้
แต่เหตุการณ์นี้ก็เป็นเครื่องย้ำเตือนอันหนักหน่วงต่อเราว่าจะต้องใส่ใจและจริงจังที่จะให้การศึกษาที่ดีกับเด็กๆ ยิ่งขึ้น เพื่อไม่ให้เหตุการณ์อันเลวร้ายนี้ซ้ำรอยอีก
การศึกษาจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนอย่างเร่งด่วนโดยต้องมุ่งสร้างความดีงามให้เกิดขึ้นในใจของคนเป็นเป้าหมายหลัก เราไม่ได้อับจนความรู้ แต่เราอับจนปัญญาความดี คนในสังคมยังมองการศึกษาคือการเรียนในโรงเรียนหรือในสถาบันการศึกษา มองเป้าหมายความสำเร็จของการศึกษากันที่วุฒิและความรู้ ในศตวรรษที่ผ่านมามนุษย์ได้ขยายขอบเขตความรู้ออกไปไกลกว้างใหญ่ไพศาล แต่ความรู้ที่เพิ่มพูนขึ้นมันทำให้ค่าเฉลี่ยความสุขของมนุษย์สูงขึ้นกว่าเมื่อห้าสิบปีก่อนหรือไม่ กลับกลายเป็นว่าขณะที่สมองพองโตขึ้นแต่หัวใจกลับลีบเล็กลง
การศึกษาเป็นหน้าที่ของทุกคน นั่นคือ มนุษย์โตเต็มวัยทุกคนมีหน้าที่ที่จะให้การศึกษาที่ดีกับมนุษย์เยาว์วัยทุกคน
วันเปิดเรียนแล้ว เด็กๆกว่าแปดล้านคนกำลังเริ่มต้นปีการศึกษาใหม่ ทั้งหมดคือความหวัง
สมองของเด็กเรียนรู้ตลอดเวลาผ่านประสาทสัมผัสรับรู้ที่ตื่นตัว เด็กๆ เรียนรู้จากการเลียนแบบอากัปกริยา การพูด การแสดงออก วิธีคิด ความเชื่อ จากคนในครอบครัว จากคนในสังคม จากนักสื่อสาร จากผู้นำประเทศ เด็กๆรับรู้จากสื่อภายนอกมากกว่าในห้องเรียนโดยผ่านทางคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ โทรทัศน์ และสิ่งพิมพ์ ที่ถั่งโถมเข้าใส่ทุกลมหายใจเข้าออก ข้อมูลมากมายมหาศาลทำให้พวกเขาต้องพยายามจับต้นชนปลายสิ่งที่รับรู้เหล่านั้นเพื่อแปลความสู่ความเข้าใจด้วยตัวเอง เราอาจจะโชคดีถ้าเด็กๆ ทั้งหมดแปลความหมายสู่สิ่งที่ดีงามและเลือกที่จะคิดและเชื่อในทางที่ดีงาม แต่ถ้าเป็นในทางตรงกันข้ามผลจะกลับกัน
การนั่งรอโชคช่วยนั้นไม่ใช่ทางเลือก เราคงทุกคนต้องเริ่มทำ หันหาทิศทางที่ถูกทาง สร้างเจตนารมณ์ร่วมกันที่จะมุ่งสร้างคนให้ดีก่อนให้เก่ง จากนั้นก็จดจ่อกับทิศทางนั้นเสมอแล้วก็ทำอย่างไม่ลดละ ช่วยกันสร้างความสุขให้เกิดขึ้นในแต่ละคนเพื่อให้เกิดความสุขมวลรวม เมื่อมีโอกาสหรือช่องทางก็สื่อสารความดีงามให้มากขึ้น และที่สำคัญที่สุดเราต้องปฏิบัติกับแด็กๆอย่างมนุษย์คนหนึ่ง ให้ทุกคนได้รับคุณค่าความเป็นมนุษย์ ซึ่งนั่นไม่จำเป็นต้องหาเครื่องไม้เครื่องมือมาจากที่ไหนเพราะเรามีเครื่องมือที่มีค่าที่สุดอยู่แล้วในตัวเราทุกคน นั่นคือหัวใจที่ดีงาม
                            ---ขอกำลังใจทั้งมวลให้ครูและผู้ปกครองทุกคน----------