ติดตามเรื่องราว

..เรียนรู้ จากความยาก..-
บางทีการทำให้เส้นทางสู่ความจริงคดเคี้ยวมากขึ้นสักหน่อยเพื่อให้เกิดระทางที่ยาวไกลขึ้นอาจจะเป็นสิ่งดีสำหรับชีวิตที่ต้องการเวลากับการค้นหาความหมาย นั่นล่ะ -PBL




วันจันทร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

ขจัดต้นตอ “ริษยา”

ปัญญาภายใน(4) 

การใช้จิตวิทยาเชิงบวก
กรอบคิดทางจิตวิทยาเชิงบวกคือ  ให้ความสำคัญกับคุณค่าความเป็นมนุษย์   ศรัทธาในความดีงามของมนุษย์และบ่มเพาะผู้เรียนที่คุณค่าที่ดีงามซึ่งมีอยู่แล้วให้งอกงามยิ่งขึ้น   โดยปฏิบัติต่อผู้เรียนอย่างมนุษย์ที่มีคุณค่าและมีศักดิ์ศรีเท่าเทียมกัน 
 การกระทำที่ควรลด  เพื่อไม่เป็นการทำลายคุณค่าความเป็นมนุษย์ของเด็กๆ  ซึ่งมีมาอยู่แล้ว  ทั้งยังเป็นการลดการให้อาหารกับเมล็ดพันธุ์ที่ไม่ดีหรืออารมณ์ด้านลบที่อยู่ภายในจิตของเด็กๆ  เพื่อให้เมล็ดพันธุ์ที่ไม่ดีเหล่านั้นไม่เติบโต เช่น  ความอยาก  ความหยิ่ง  ความลุ่มหลง  ความคิดลบ  ความโกรธฉุนเฉียวเจ้าอารมณ์  ความเกลียด  ความท้อแท้  ความอิจฉา ความกลัว  ความเบื่อหน่าย เป็นต้น 
    
1.      ลดการเปรียบเทียบ  
เราไม่ควรเปรียบเทียบเด็กๆ  ไม่ว่าจะโดยการพูดหรือการกระทำเพราะ  ไม่มีใครอยากถูกเปรียบเทียบว่าตนเองเป็นผู้ที่ด้อยค่ากว่า   เด็กทุกคนแสดงพฤติกรรมออกมาอย่างเป็นธรรมชาติของตัวเองจึงไม่ควรเปรียบเทียบพฤติกรรมระหว่างคนสองคน  ถ้าจะชมหรือสะท้อนพฤติกรรมที่ต้องแก้ไขควรกระทำต่อเขาโดยตรงโดยไม่เปรียบเทียบกับคนอื่น  หรือแม้แต่การทำงานเด็กๆ จะทำชิ้นงานหรือภาระงานที่ครูมอบให้ออกมาอย่างเต็มศักยภาพ  ครูจึงไม่ควรเปรียบเทียบระหว่างเด็กแต่ละคน     แต่ครูมีหน้าที่ที่ต้องรู้ให้ได้ว่าพัฒนาการหรือศักยภาพแต่ละด้านเขาอยู่ตรงไหน  และหาวิธียกระดับเขาสูงขึ้นให้ได้    ไม่มีหน้าที่ตีตราโดยการให้ดาวหรือให้ลำดับ  แต่สามารถสะท้อนกลับได้  การชื่นชมหรือการสะท้อนกลับที่ดีกลับจะสร้างแรงบันดาลใจและกำลังใจให้กับผู้เรียนได้อย่างดีเช่นกัน   

ในระยาวการเปรียบเทียบก็อาจจะส่งผลเสียต่อทั้งสองกลุ่ม   การเปรียบเทียบเป็นต้นตอของความอิจฉาและอาจส่งผลของความรุนแรงต่อไปถึงความริษยา ความอาฆาตแค้น ความรุนแรงของสังคม   ผู้ที่ถูกเปรียบเทียบว่าด้อยกว่าก็เสี่ยงต่อการถูกทำลายคุณค่า  และเมื่อถูกทำลายคุณค่าลงเขาก็จะรู้สึกแย่กับตัวเองและรู้สึกแย่กับคนอื่นหรือสิ่งอื่นไปด้วย  สุดท้ายก็กลับมาสู่วงจรการทำร้ายตนเองและการทำร้ายกันด้วยวิธีการใดวิธีการหนึ่งเพื่อเป็นการตอบโต้   ส่วนผู้ที่ถูกเปรียบเทียบว่าสูงค่ากว่าก็มีความเสี่ยงที่จะถูกล่อเลี้ยงอัตตาให้โต  ติดอหังการ์  ซึ่งเป็นอุปสรรคใหญ่ต่อการเรียนรู้และเป็นอุปสรรคต่อการบ่มเพาะจิตใหญ่   การจัดอันดับก็เป็นการเปรียบเทียบเพราะเราจะใช้เกณฑ์อย่างใดอย่างหนึ่งวัดทั้งที่แท้จริงพื้นฐานคือทุกคนมีความแตกต่างกันเหมือนผลไม้นานาชนิดจึงไม่สามารถเปรียบเทียบกันด้วยเกณฑ์ใดเกณฑ์หนึ่ง   กล้วย  ฝรั่ง มะละกอที่มีดีตามคุณลักษณะเฉพาะตัว  คนแต่ละคนก็เป็นลักษณะเฉพาะบุคคลที่เป็นหนึ่งเดียวในโลก  

2.      ลดการสร้างภาพของความกลัวเพื่อการควบคุม 
ความกลัวกระตุ้นการทำงานของสมองส่วน อะมิกดาลา  ทำให้เด็กเข้าสู่โหมดปกป้อง  หลบหลีก  จากสิ่งที่จะทำให้เจ็บปวด  สิ่งคุกคาม หรือ ภัยอันตราย   ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการเรียนรู้เพราะทำให้เราไม่กล้าเผชิญกับสิ่งนั้น   ความกลัวเกิดจากการได้เผชิญกับสิ่งนั้นจริงด้วยการได้เห็น ได้ยิน  ได้สัมผัสจริง  เช่น  ถูกตี  ถูกดุด่า  ถูกคาดโทษ  ตีตราว่าล้มเหลว  ถูกละทิ้งเพิกเฉยให้ไม่ได้รับความรัก  ฯลฯ   ต่อจากนั้นความกลัวส่วนใหญ่จะมาจากการสร้างภาพของความกลัวขึ้นมาโดยคนอื่นและตามมาด้วยการสร้างจินตนาการความกลัวของตนเอง  หรือบางครั้งความกลัวก็เกิดจากความไม่รู้  
ภาพของความกลัวถูกสร้างขึ้นในโรงเรียนนับร้อยพันอย่าง  ส่วนใหญ่มีเบื้องหลังความคิดที่ต้องการควบคุม  เช่น  ถ้าส่งงานไม่ครบจะติด “ร”  ถ้าไม่ตั้งใจเรียนจะสอบตกติด “0”   หรือ  จะให้ติด “มส”  เพราะเวลาเรียนไม่ครบ  ถ้าประพฤติไม่ดีจะถูกไล่ออก   แล้วเครื่องหมายตราบาปเหล่านี้ก็ติดไปกับหลักฐานทางการศึกษาและติดอยู่ในใจของเด็กตลอดไป  ทั้งที่ถ้าพิจารณาในเชิงจิตวิทยาเชิงบวก  การกระทำของครูอย่างนั้นเป็นการทำลายคุณค่าความเป็นมนุษย์ในตัวเด็ก  ครูมีหน้าที่ที่จะสร้างหนทางให้เด็กได้มีโอกาสแก้ไขสิ่งต่างๆ ได้เสมอ  หรือแค่เพียงชิ้นงานที่ส่งมาแม้ไม่ได้ครบทุกชิ้นครูก็สามารถประเมินอย่างรอบด้านเพื่อค้นหาความงอกงามได้แล้ว  หรือ  การที่เด็กไม่สามารถมาเรียนได้ก็สร้างโอกาสให้เขาได้เกิดการเรียนรู้ได้เองโดยไม่จำเป็นต้องมานั่งรวมกันต่อหน้าครูเสมอไป  เด็กทุกคนต้องการทางเลือกและโอกาสแบบไม่จำกัด  ครูมีหน้าที่อำนวยการให้เด็กรักที่จะเรียนรู้และอำนวยการให้เกิดการเรียนรู้  


กรุงเทพธุรกิจ(กายใจ) ฉบับ  81    18-24  ธ.ค.2554

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น