ติดตามเรื่องราว

..เรียนรู้ จากความยาก..-
บางทีการทำให้เส้นทางสู่ความจริงคดเคี้ยวมากขึ้นสักหน่อยเพื่อให้เกิดระทางที่ยาวไกลขึ้นอาจจะเป็นสิ่งดีสำหรับชีวิตที่ต้องการเวลากับการค้นหาความหมาย นั่นล่ะ -PBL




วันศุกร์ที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2553

สเตียรอยด์ ดัชนีการเรียนรู้ของคนในชาติ

สเตียรอยด์ คือชื่อเรียกของกลุ่มฮอร์โมนที่ถูกสร้างจากต่อมหมวกไตภายในร่างกายของคนเรา สเตียรอยด์ที่ถูกสร้างหลักๆ มี 2 ชนิด คือ โคติซอล(Cortisol) และอัลโดสเตียรอยด์(Aldosterone)
ต่อมาในวงการแพทย์แผนปัจจุบันได้สร้างสารสเตียรอยด์สังเคราะห์ขึ้นมาเพื่อพัฒนาตัวยาบางชนิดให้แรงขึ้น ซึ่งการใช้ยากลุ่มนี้ต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์และเภสัชกร แต่ด้วยคุณสมบัติที่ดีในการรักษาสารพัดโรค ไข้สูงสามารถฉีดให้ไข้ลดได้ในเข็มเดียว เป็นผื่นแพ้ไม่มีสาเหตุก็ทาให้หายได้ ปวดเส้นปวดกล้ามเนื้อ ปวดกระ ดูก ก็ฉีดหรือกินให้หายได้ หรืออาการอื่น ๆ การหายได้

ดังนั้นการนำยานี้มาใช้จึงแพร่หลายอย่างไม่อาจควบคุมได้จริง เราอาจหาซื้อได้ง่ายในรูปของยาลูกลอน ยาสมุนไพร ยาแผนโบราณ ยาพระ ยาต้ม ยาหม้อ ยาชุด ที่มีขายตามตลาดสด คนมีเร่ขาย ขายตามเวทีมายากล โฆษณาตามสถานีวิทยุ หรือแม้กระทั้งในคลินิก ทั้งที่ถูกกฎหมายและไม่ถูกกฎหมาย

สเตียรอยด์มีโทษ คือ เมื่อใช้ติดต่อกันนานเกินไป จะเกิดอาการที่เรียกว่า Cushing's syndrome คือ
มีอาการบวม ท้องลาย ความดันโลหิตสูง อ่อนเพลีย ติดเชื้อง่าย กดการเจริญเติบโตของเด็ก ความดันในลูกตาสูงขึ้นทำให้เป็นต้อหิน โพแทสเซียมในเลือดต่ำ กล้ามเนื้ออ่อนแรง คลื่นไส้อาเจียน เบื่ออาหาร ปวดศีรษะ นอกจากนี้แล้วยังทำให้ประจำเดือนผิดปกติหรืออาจไม่มีประจำเดือน และความรู้สึกทางเพศลดลง กระดูกบาง เลือดออกในกระเพาะอาหาร เนื่องจากสเตียรอยด์ไปทำให้ผนังกระเพาะอาหารและลำไส้บางลง

และผลเสียที่เลวร้ายที่สุด คือ สเตียรอยด์จะกดภูมิคุ้มกันของร่างกาย บดบังอาการติดเชื้อต่างๆ เมื่อร่างกายติดเชื้อก็จะไม่มีอาการเจ็บไข้ให้เห็น ทำให้ดูเหมือนสบายดี และเนื่องจากสเตียรอยด์กดภูมิคุ้มกันของร่างกายเอาไว้

ทั้งที่จริงต้นเหตุของความเจ็บป่วย คือการดูแลรักษารักษาสุขภาพ โดยการออกกำลังกาย กินอาหารที่มีประ โยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ เท่านี้ก็คงไม่ต้องถึงปลายทางที่จะต้องเสี่ยงกับการใช้สารสเตียรอยด์

ผมเชื่อว่าคนส่วนใหญ่ในประเทศไทยถูกทำให้ใช้สารสเตียรอยด์เพราะไม่รู้ หรือไม่ก็ใช้ไปโดยไม่รู้ผลข้างเคียง แต่คนที่รู้จักสารนี้ดีจำนวนหนึ่งยังแอบใช้โดยไม่รู้สึกว่าเป็นความรับผิดชอบของตนต่อคนอื่น อาจจะเพื่อให้ได้ผลกับการรักษา และ/หรือ เพื่อผลประโยชน์ที่จะได้มาอย่างง่ายดาย

ทั้งหมดนี้ สามารถแก้ไขด้วยการเพิ่มสมรรถนะการเรียนรู้ของคนในชาติ(ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ที่สุดของการปฏิรูปการศึกษา) และ เป็นสมรรถนะการเรียนรู้ที่รวมเอาความรู้สึกรับผิดชอบต่อตนเองและต่อคนอื่นเข้าไปด้วย

1 ความคิดเห็น:

  1. จินตนา คงหมือนเพชร28 มีนาคม 2553 เวลา 20:23

    ด้วยความโดดเด่นที่น่าสนใจ
    ดิฉันมีความประสงค์จะนำนักศึกษาป.บัณฑิต ม.ราชภัฏภูเก็ต จำนวน ๔๐ คนในระหว่างเดือนมิถุนายน ๕๓ นี้ ท่านพอจะปฏิทินว่างไหมคะ
    โปรดตอบรับด้วยค่ะที่ จินตนา คงเหมือนเพชร 0818953225 หรือ
    chin007@ymail.com

    ตอบลบ