ความรักนำมาซึ่งความเข้าใจ ความเข้าใจก็นำมาซึ่งความรัก
เมื่อเรารู้สึกรักหรือหลงใหลอะไรสักอย่างเราจะทุ่มเทเพื่อจะเข้าถึงและเข้าใจสิ่งนั้น (ความเข้าใจคือความสามารถอธิบายได้อย่างแตกฉาน นำมาสู่การปฏิบัติและการเปลี่ยนแปลงตัวเอง) เช่น คนที่รักการดื่มกาแฟเขาจะอ่าน จะค้นคว้า จะแสวงหาการลิ้มลองอย่างไม่รู้จักจบสิ้นโดยไม่ต้องมีใครมาคอยย้ำเตือน เขาจะจดจำเรื่องราวต่างๆ ของกาแฟได้อย่างดี และ ความทรงจำในชีวิตก็มักจะเกี่ยวโยงกับเรื่องราวของกาแฟไปด้วย เขาจะมีความสามารถในการเลือกเฟ้นกาแฟดีๆ และปรุงกินเองได้ จนในที่สุดอาจจะผสานเข้าไปในปรัชญาการดำเนินชีวิตของตนเองได้
ไอน์สไตน์ ไม่ได้จบทางด้านฟิสิกส์ แต่รักฟิสิกส์ ไขว่คว้าศึกษาเองจนได้เป็นนักวิทยาศาสตร์เอกในโลก
จอนห์ เลนนอน เจ้าของเพลงอมตะ Imagine ไม่ได้จบวิชาการดนตรี แต่รักการร้องเพลง จนได้เป็นตำนานของโลก
บิล เกตส์ เรียนมหาวิทยาลัยเพียงปีเดียว หรือ สตีฟ จอบส์ เจ้าของแบรนด์ Apple เรียนได้เพียงไม่กี่เดือน และชื่นชอบวิชาที่เรียนวิชาเดียวคือการออกแบบตัวอักษร แต่ทั้งสองรักในคอมพิวเตอร์ จึงได้สร้างตำนานด้านคอมพิวเตอร์
โน๊ต อุดมแต้พานิชย์ รักในการพูดและการสร้างรอยยิ้มให้กับผู้คน เขาจึงกลายเป็นนักพูดที่มีคนคอยฟังทุกปี
พันธ์รบ กำลา เจ้าของแฟนไชส์ ชายสี่หมี่เกี๊ยว จบแค่ ป.4
ทุกคนที่กล่าวมาเริ่มต้นด้วยความรักแล้วความรักก็นำเขาไปสู่ความเข้าใจในสิ่งนั้นอย่างลึกซึ้ง รักประเภทนี้เป็น "รักที่ไม่มีเงือนไข" ไม่คำนึงว่าจะได้อะไรตอบแทน ไม่คาดหวังผลเกินกว่าการที่จะได้ทำ เขาเหล่านั้นจึงมีความสุขอยู่กับการได้ทำ
เมื่อเรารู้สึกรักหรือหลงใหลอะไรสักอย่างเราจะทุ่มเทเพื่อจะเข้าถึงและเข้าใจสิ่งนั้น (ความเข้าใจคือความสามารถอธิบายได้อย่างแตกฉาน นำมาสู่การปฏิบัติและการเปลี่ยนแปลงตัวเอง) เช่น คนที่รักการดื่มกาแฟเขาจะอ่าน จะค้นคว้า จะแสวงหาการลิ้มลองอย่างไม่รู้จักจบสิ้นโดยไม่ต้องมีใครมาคอยย้ำเตือน เขาจะจดจำเรื่องราวต่างๆ ของกาแฟได้อย่างดี และ ความทรงจำในชีวิตก็มักจะเกี่ยวโยงกับเรื่องราวของกาแฟไปด้วย เขาจะมีความสามารถในการเลือกเฟ้นกาแฟดีๆ และปรุงกินเองได้ จนในที่สุดอาจจะผสานเข้าไปในปรัชญาการดำเนินชีวิตของตนเองได้
ไอน์สไตน์ ไม่ได้จบทางด้านฟิสิกส์ แต่รักฟิสิกส์ ไขว่คว้าศึกษาเองจนได้เป็นนักวิทยาศาสตร์เอกในโลก
จอนห์ เลนนอน เจ้าของเพลงอมตะ Imagine ไม่ได้จบวิชาการดนตรี แต่รักการร้องเพลง จนได้เป็นตำนานของโลก
บิล เกตส์ เรียนมหาวิทยาลัยเพียงปีเดียว หรือ สตีฟ จอบส์ เจ้าของแบรนด์ Apple เรียนได้เพียงไม่กี่เดือน และชื่นชอบวิชาที่เรียนวิชาเดียวคือการออกแบบตัวอักษร แต่ทั้งสองรักในคอมพิวเตอร์ จึงได้สร้างตำนานด้านคอมพิวเตอร์
โน๊ต อุดมแต้พานิชย์ รักในการพูดและการสร้างรอยยิ้มให้กับผู้คน เขาจึงกลายเป็นนักพูดที่มีคนคอยฟังทุกปี
พันธ์รบ กำลา เจ้าของแฟนไชส์ ชายสี่หมี่เกี๊ยว จบแค่ ป.4
ทุกคนที่กล่าวมาเริ่มต้นด้วยความรักแล้วความรักก็นำเขาไปสู่ความเข้าใจในสิ่งนั้นอย่างลึกซึ้ง รักประเภทนี้เป็น "รักที่ไม่มีเงือนไข" ไม่คำนึงว่าจะได้อะไรตอบแทน ไม่คาดหวังผลเกินกว่าการที่จะได้ทำ เขาเหล่านั้นจึงมีความสุขอยู่กับการได้ทำ
เมื่อเราเห็นคนทิ้งขยะอย่างไม่รับผิดชอบ หรือ คนใช้พลังงานแบบไม่บันยะบันยัง หรือ คนตัดต้นไม้ เราอาจโอดครวญว่า "ทำไมพวกเขาไม่ช่วยกันดูแลโลก" ที่เขาเหล่านั้นไม่ได้รักโลกมาพอเพราะเขาไม่เข้าใจความสัมพันธ์ที่โยงใยกันอยู่ ถ้าเราทำให้เขาเข้าใจถึงความสัมพันธ์ที่โยงใยกันอยู่ ความเข้าใจนั้นจะนำเขาไปสู้ความรักได้เช่นกัน อย่างเช่น หญิงสาวรู้สึกรังเกียจและขยะแขยงไส้เดือนแต่เมื่อเธอเรียนรู้และได้เข้าใจ ว่าไส้เดือนมีคุณค่าต่อดินเพียงใดเธอก็จะกลับมารักไส้เดือนได้ ถ้าคนๆ หนึ่งเข้าใจถึงผลเสียและผลกระทบอย่างใหญ่หลวงของการไม่มีตนไม้ ตอนนั้นเขาก็จะกลับมารักต้นไม้
ผู้ปกครองส่วนใหญ่ของโรงเรียนต่างๆ ที่ยังไม่ได้ให้ความร่วมมือกับโรงเรียนในการพัฒนาผู้เรียนให้เต็มศักยภาพ ทั้งนี้เพราะผู้ปกครองเหล่านั้นยังไม่เข้าใจว่าจะต้องทำอย่างไรหรือสำคัญเพียงใด หรือไม่ก็เพราะยังไม่ได้รู้สึกรักโรงเรียนนั้นๆ
เด็กบางคนอาจจะยังไม่ได้รักการเรียนทั้งนี้เพราะเขายังไม่เข้าใจจริงๆ ว่าการเรียนช่วยในการสร้างผลแตกต่าง อย่างไรในอนาคต หรือ เด็กบางคนเรียนแล้วแต่ไม่เข้าใจบางเรื่องอย่างลึกซึ้งทั้งนี้เพราะเขายังไม่ได้รักหรือสนใจในเรื่องนั้น จริงๆ ทำให้ไม่มีความเพียรพยายามในการขนขวายเรื่องนั้นต่อ
วันหนึ่งผมให้เด็กๆ ป.5 และ ป.6 เขียนมาถามครูใหญ่ ผมได้รับคำถามมากมายกว่าสี่ร้อยคำถาม บางคำถามก็เกี่ยวข้องกับครู หรือพนักงานของโรงเรียนฯ เช่น ถามว่า "ทำไม่ป้าแม่ครัวจึงไม่ค่อยยิ้มให้เรา" หรือ "ทำไมป้าแม่ครัวจึงตักข้าวให้เราน้อย" ผมไม่ได้ตอบคำถามนั้นทันที่แต่บ่ายวันนั้นผมเชิญป้าแม่ครัวมาที่ห้อง ป.6 ผมถามนำ เพื่อให้ป้าแม่ครัวเล่าเรื่องราวชีวิตการทำงานที่นี้ตั้งแต่เริ่มตั้งโรงเรียนว่าได้ทำอะไรบ้าง
ป้าแม่ครัวเล่าให้เด็กๆ ฟังว่า “ตอนแรกนั้นยังทำกับข้าวไม่เก่งเลยต้องมาเป็นแม่บ้าน คอยปัดกวาดห้องเรียนหลังจากเด็กๆ กลับบ้าน ล้างห้องส้วมที่สกปรกและมีกลิ่นเหม็นเพื่อให้ตอนเช้าเด็กๆ ได้ใช้ห้องน้ำที่สะอาด คอยขัดพื้นหรือผนังบริเวณที่เด็กๆ ทำเลอะเทอะไว้ ฯลฯ เป็นแม่บ้านอยู่ราวสองปีก็มาเป็นแม่ครัวจนมาถึงปัจจุบัน เป็นแม่ครัวจะต้องตื่นตอนตี่สามและทำงานยาวถึงบ่ายสาม แต่ถ้าวันไหนมีแขกมาอบรมก็ต้องอยู่ยาวต่อไปถึงสองทุ่ม จนจัดล้างจัดเก็บทุกสิ่งเสร็จ และการยืนนานๆ ก็ทำให้ปวดขา”
ผมถามเด็กๆ ว่า "ตั้งแต่เข้าเรียนชั้นอนุบาล1 ถึง ป.6 แต่ละคนกินข้าวที่โรงเรียนไปกี่มื้อ"
เด็กๆ นิ่งคิด และบางคนเริ่มตอบออกมาเบาๆ "เยอะมาก"
แล้วผมก็ให้เด็กๆ ทุกคนได้ขอบคุณป้าแม่ครัว เมื่อเด็กๆ ได้เข้าใจหน้าที่อันหนักหน่วงของป้าแม่ครัวแล้ว เขาก็จะรักเป้าแม่ครัวมากยิ่งขึ้น และคำถามที่เขาถามไว้ก็จะได้รับการตอบด้วยตัวเขาเอง และเป็นคำตอบที่มาจากความเข้าใจ
รักเป็นที่มาของความเข้าใจ และ ความเข้าใจก็เป็นที่มาของรัก