(ดูงานสิงคโปร์ 1)
เช้าวันอาทิตย์ที่ต้องแลกมา
ผมตื่นแต่เช้ามากในห้องคับแคบ ของโรงแรมไร้ดาว
ก็ในพื้นที่อันจำกัดของสิงคโปร์เราเลือกอะไรไม่ได้มากนักเราจึงควรเลือกที่จะใช้คำว่า
"ต้องอดทน" แทนคำว่า "จำยอม" ห้องพักคับแคบจนการอ่านหรือการเขียนของผมมันติดตันไปหมด
ผมออกมาเดินตั้งแต่ตะวันยังไม่โผล่ ลัดเลาะไปหลายถนนกะจะเก็บสะสมจำนวนก้าวไว้ตั้งแต่เข้าเพื่อวันนี้จะได้ถึงหมื่นก้าว
แต่ความตั้งใจเบื้องหลังหวังไว้ด้วยว่าจะเจอร้านกาแฟยามเช้าสักร้าน
ข้อหลังนี้ยากจริง
ถนนยามเช้าวันอาทิตย์ร้างผู้คน ผมย่ำเดินวกไปเวียนมาจนในที่สุดก็เจอร้านเล็กๆ ตรงหัวมุมถนน Liang Seah St. สอบถามได้ความว่ามีกาแฟแบบโบราณแต่เสริฟพร้อมชุดอาหารเช้า
อันมีขนมปังและไข่ลวกสองฟอง ราคาราว 90 บาท ผมถือว่าราคาถูกมากกับประเทศที่แทบทุกอย่างต้องนำเข้าแม้แต่น้ำล้างส้วม
ผลิตอะไรไม่ได้เลยนอกจากคน จึงเป็นเหตุผลที่เราควรมาดูการผลิตคนซึ่งอาจเอาไว้เป็นบทเรียนเท่านั้นไม่ควรหมายว่าต้องเลียนแบบ
อาหารเช้าดังภาพ
ผมไม่ได้กินเพราะความหิวแต่กินเพราะอยากลองลิ้มรสดู
เพื่อจะได้ซื้อเวลาสำหรับการครุ่นคิด
ขณะที่นั่งกินไป
ครุ่นคิดอย่างเพลิดเพลินให้ทะเลแห่งความคิด
นกพิราบตัวหนึ่งก็โฉบบินลงมาจิกกินเศษขนมปังที่น่าจะเป็นเจ้าของร้านที่มาวางเอาไว้ข้างๆ
ร้าน มันคงหิว หรืออาจลูกของมันเองก็คงหิว แต่อนิจจายังไม่ได้จิกกินเศษขนมปังเพื่อชโลมความหิวเลยแม้เพียงชิ้น.
แต่เธอก็ต้องตะลึงลานเพราะแผ่นรองขนมปังนั้นติดกาว และกาวก็ติดปีกเธอ เธอแตกตื่น
รนรานดิ้นหนี้จากกับดัก แต่ยิ่งดิ้นยิ่งติดแน่น ยิ่งดิ้นยิ่งอ่อนล้า
ยิ่งดิ้นก็ยิ่งเจ็บปวด
ในที่สุดเธอก็หลุดรอดไปได้และกระเสือกกระสนคลานเข้าไปซบในพุ่มไม้
แต่ด้วยที่กาวได้ติดปีกข้างหนึ่งกับขาอีกข้างหนึ่งของเธอเอาไว้
ผมจึงแน่ใจว่าเธอจะบินไม่ได้อีกและในที่สุดคงตกตายไปดั่งใบไม้ใบหนึ่งที่ร่วงหล่นลงบนถนน
Liang
Seah St.
ผมนึกสงสัยว่าเพื่อบางอย่างเราต้องแลกด้วยบางอย่างเสมอหรือ
หัวมุมถนน Liang Seah St. |
ถนน Liang Seah St. |