การเรียนรู้ภาษา ของโรงเรียนนอกกะลา
เป็นการเรียนรู้ภาษาโดยไม่ใช้แบบเรียน แต่ให้เรียนรู้การใช้ภาษาจริงจากการมีปฏิสัมพันธ์กับบุคคลแวดล้อมและการเรียนรู้ผ่านวรรณกรรม
การสอนภาษา จะเป็นการจัดกระบวนการเรียนรู้โดยที่ครูจัดกระทำในสิ่งที่เอื้อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ ผ่านกิจกรรม ชง เชื่อม ใช้ ดังกรณีตัวอย่าง ดังนี้
กรณี การอ่านเรื่อง / วรรณกรรม
ชง นักเรียนอ่านเรื่องโดยการอ่านออกเสียง (อ่านคนเดียว / อ่านต่อเนื่องกัน / อ่านพร้อมกัน) หรืออ่านในใจ หรือครูอ่านให้ฟัง แล้วให้เด็กค้นหาคำแม่ ก กา หรือคำมาตราตัวสะกด หรือคำเป็นคำตาย หรือชนิดของคำ(นาม กริยา สรรพนาม ฯลฯ) หรือคำราชาศัพท์ หรือคำสุภาพ หรือคำประวิสรรชนีย์ ไม่ประวิสรรชนีย์ หรือคำควบกล้ำ ฯลฯ จากเรื่องที่อ่าน ตามเป้าหมายของการสอนครั้งนั้น
เชื่อม นำเสนอคำที่ได้ และแลกเปลี่ยนคำที่ได้กับเพื่อนในชั้น ซึ่งจะได้คำที่ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น วิเคราะห์ร่วมกัน เพื่อตรวจสอบว่าใช่หรือไม่ เพราะอะไร แล้วช่วยกันอธิบายความหมายของคำศัพท์นั้นพร้อมยกตัวอย่าง หรือ ครูตั้งคำถามเพื่อให้เด็กแต่ละคนได้คิด ได้แสดงความคิด ได้รับฟังเพื่อรับรู้แง่มุมที่แตกต่าง เกี่ยวกับเรื่องที่อ่าน โดยให้สอดรับกับพฤติกรรมสมอง ดังนี้
จำ : ตัวละครมีใครบ้าง? เรียงลำดับเหตุการณ์ของเรื่อง
เข้าใจ : สรุปเรื่องหรือข้อคิดที่ได้
วิเคราะห์ / สังเคราะห์ : วิเคราะห์ / สังเคราะห์เหตุการณ์ ลักษณะนิสัยของตัวละคร ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น
นำไปใช้ : สรุปเหตุการณ์ เทียบเคียงกับชีวิตจริง
ประเมินค่า : การกระทำของตัวละครเหมาะสมหรือไม่ อย่างไร / เหตุการณ์ต่อไปจะเป็นอย่างไร
สร้างสรรค์ : แต่งเรื่องใหม่ แต่งตอนจบใหม่ วาดภาพประกอบ ออกแบบฉาก การ์ตูนช่อง
ใช้ ให้ผู้เรียนได้ลงมือทำแบบฝึก / งาน / ภาระงาน ที่สอดรับกับพฤติกรรมสมอง
การปลูกฝังนิสัยรักการอ่าน
เด็กที่รักการอ่านจะเข้าสู่โลกจริงได้ง่ายเพราะจะไม่ถูกกักขังไว้ในโลกของตัวเอง การอ่านยังเป็นส่วนสำคัญต่อการเรียนรู้ เป็นสะพานเชื่อมไปสู่โลกข้างนอกเพื่อสร้างปฏิกริยาต่อการเปลี่ยนแปลงภายใน การถูกแวดล้อมไปด้วยคนที่รักการอ่านและหนังสือที่น่าอ่าน สามารถสร้างอุปนิสัยรักการอ่านได้อย่างถาวร การอ่านจะทำให้เกิดกระบวนการใคร่ครวญได้มากกว่าการฟัง ส่วนการเขียนยิ่งได้ใคร่ครวญยิ่งกว่า ปัญญาจากการใคร่ครวญเป็นของส่วนตัว มันจะเพิ่มพูนของมันเองจากภายใน
การฝึกคัดลายมือ
การคัดลายมือเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้ภาษาในการที่จะสื่อสารผ่านสัญลักษณ์ แต่ให้คุณอย่างอื่นโดยเฉพาะช่วงวัยต้นๆ เพราะการคัดลายมือจะช่วยให้กล้ามเนื้อมัดเล็กแข็งแรงและการทำงานของมือกับตาที่สัมพันธ์กัน ทั้งยังเป็นการฝึกสัมมาสมาธิ หรือจดจ่อให้ยาวขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อศักยภาพการเรียนรู้ต่อไปในระยะยาว ในอนาคตการเขียนอาจจะมีความจำเป็นน้อยลงเพราะเทคโนโลยีการพิมพ์และการบันทึกภาพและเสียง
การพัฒนาความสามารถทางด้านการเขียน
การเขียนจำเป็นจะต้องมีศัพท์ในหัวจำนวนมากซึ่งสามารถเพิ่มพูนคำศัพท์ได้จากการอ่าน ให้การฝึกเขียนเกิดขึ้นอย่างสม่ำเสมออย่างเช่นการเขียนบันทึก การเขียนยังเป็นการฝึกกระบวนการคิดและการจัดการระบบข้อมูลภายใน อุปสรรคต่อความสามารถในการเขียนของเด็กบางครั้งก็มาจากเรื่องเล็กน้อย เช่น การแก้คำผิด
"ทำไม่ครูโรงเรียนลำปลายมาศพัฒนาจึงติดโชว์ผลงานของเด็กๆ โดยไม่แก้คำผิด?" เป็นคำถามของครูที่มาเข้าอบรมหลายท่าน
เราคิดว่าการตรวจเช็คและแก้ไขโดยครูเป็นการมองจากครูฝ่ายเดียวซึ่งครู กำลังมองภาษาในรูปแบบตายตัว ไม่ยืดหยุ่น และไม่สามารถนำลองผิดลองถูกได้ การที่ครูแก้คำถูกผิดด้วยสีแดงพรืดเต็มไปหมด อาจทำให้เด็กรู้สึกภาษาเป็นสิ่งน่ากลัว และอาจรู้สึกว่าตัวเองด้อยความสามารถจนไม่กล้าที่จะเขียนคำใหม่ๆ อีกต่อไป
เราเชื่อว่าเมื่อเด็กเริมอ่านหนังสือได้เขาจะตื่นตัวที่จะเช็คคำผิดคำถูกด้วยตัวเอง โดยเฉพาะเมื่อเขารักการอ่านและมีประสบการอ่านมากขึ้นเขาจะยิ่งกระตือรือร้น ในการตรวจเช็คคำผิดด้วยตังเอง
หรือ ครูแค่รวบรวมคำที่เด็กแต่ละคนเขียนผิดมาเขียนไว้มุมหนึ่งของกระดาน และให้มีโอกาสได้ใช้บางคำในจำนวนนั้นอย่างถูกต้อง แล้วหลังจากนั้นเด็กๆ ก็จะตรวจสมุดของตัวเองอย่างกระตือรือร้น
ภาษาจะเป็นสิ่งน่ารำคาญ ถ้ามันอธิบายความหมายที่อยู่ใต้บรรทัดไม่ได้
เราคิดว่าการตรวจเช็คและแก้ไขโดยครูเป็นการมองจากครูฝ่ายเดียวซึ่งครู กำลังมองภาษาในรูปแบบตายตัว ไม่ยืดหยุ่น และไม่สามารถนำลองผิดลองถูกได้ การที่ครูแก้คำถูกผิดด้วยสีแดงพรืดเต็มไปหมด อาจทำให้เด็กรู้สึกภาษาเป็นสิ่งน่ากลัว และอาจรู้สึกว่าตัวเองด้อยความสามารถจนไม่กล้าที่จะเขียนคำใหม่ๆ อีกต่อไป
เราเชื่อว่าเมื่อเด็กเริมอ่านหนังสือได้เขาจะตื่นตัวที่จะเช็คคำผิดคำถูกด้วยตัวเอง โดยเฉพาะเมื่อเขารักการอ่านและมีประสบการอ่านมากขึ้นเขาจะยิ่งกระตือรือร้น ในการตรวจเช็คคำผิดด้วยตังเอง
หรือ ครูแค่รวบรวมคำที่เด็กแต่ละคนเขียนผิดมาเขียนไว้มุมหนึ่งของกระดาน และให้มีโอกาสได้ใช้บางคำในจำนวนนั้นอย่างถูกต้อง แล้วหลังจากนั้นเด็กๆ ก็จะตรวจสมุดของตัวเองอย่างกระตือรือร้น
ภาษาจะเป็นสิ่งน่ารำคาญ ถ้ามันอธิบายความหมายที่อยู่ใต้บรรทัดไม่ได้
กรุงเทพธุรกิจ ISSUE 73 16-22 ตุลาคม 2554