ตอนมีชีวิตอยู่เราอาจวิตกว่าก่อนตายจะรู้สึกอย่างไร จะเจ็บปวดมากไหม จะกลัวอะไรบ้าง แต่อาจจะเปล่าดายที่จะไปคิด เพราะเมื่อถึงกาลเข้าจริงๆ ความเจ็บปวดตอนสุดท้ายคงไม่สำคัญ ก็ในเมื่อการเผชิญความตายที่อยู่ต่อหน้านั้นน่าพรั่นพรึงกว่า บางทีการรู้สึกอยู่กับความเจ็บปวดอันทรมานนั้นกลับจะเป็นสิ่งดีเสียอีกที่จะทำให้เราได้หลงลืมความกลัวตายไปชั่วขณะ และตอนนั้นเราอาจจะอยากรู้สึกเจ็บปวดอยู่อย่างนั้นนานๆ ก็ได้ เพราะความรู้สึกเจ็บปวดเท่านั้นที่ช่วยเตือนให้รู้ว่าเรากำลังมีชีวิตอยู่
ประสบการณ์จากเช้ามืดวันหนึ่ง ขณะฝนโปรยปรายลงมาอย่างนุ่มนวลแผ่วเบาตลอดคืน ตรงริมถนนใหญ่ตรงนั้นแสงไฟส่องสว่างที่ถนนส่องต้องร่างอันเปลือยเปล่าของชายฉกรรจ์ซึ่งนอนสงบแน่นิ่งท่ามกลางผู้คนที่สัญจรไปมาของเช้าวันนั่น มือทั้งสองข้างของเขากุมแน่นไว้ที่หน้าอกเปลือยเปล่า ร่างเผือดขาวซีดใบหน้าเรียบเฉย ผมรู้สึกสะทกสะท้านใจในแวบแรก แต่แล้วเมื่อผมได้เพ่งมองลงไปจึงพบว่านั่นคือความตายอันงดงามที่สุดเท่าที่ผมเคยเจอมา
มันหมดจดสะอาดเอี่ยมโดยปราศจากข้อสงสัยว่าเขาคนนั้นจากไปอย่างอิสรก็วิธีหนึ่งมิใช่หรือที่จะปลดปล่อยตัวเองสู่ความว่างเปล่าเป็นอิสระอย่างแท้จริง
นั่นคือต้องหลุดพ้นไปจากโลกนี้เสีย ในห้วงคำนึงถึงความตาย
การเตรียมตัวตายอาจนำความอิสระมากว่าครึ่ง
เตรียมตัวตายกันเถอะ- ด้วยวิธีดังนี้
1 ตั้งใจว่าอยากจะมีเวลาชีวิตที่เหลืออยู่เท่าไหร่(ต้องกะแบบไม่ละโมบ)
และให้วันเกิดเป็นสัญญาณการนับถอยหลัง
2 เลือกสิ่งใหญ่ๆ สักอย่างที่อยากจะทำในแต่ละปี โดยที่สิ่งนั้นต้องนำปีติมาสู่ตน
3 ตั้งใจที่จะมีความสุขเพียงเล็กน้อยในทุกเวลาของหนึ่งวัน โดยกลับมารู้สึกตัวทีจะมีความสุขเพียงเล็กน้อยวันละหลายครั้ง
4 ให้การนอนเป็นการสมมุติการตาย หรือทดลองตายทุกครั้ง
5 แบ่งเวลาให้เท่าเทียมเพื่อคุยกับคนอื่น ตนเอง ต้นไม้ ท้องฟ้า หมา แมว นก ฯลฯ
6 อย่าคิดว่าจะรอดตาย
----ขอให้การเดินทาง เป็นไปด้วยความรื่นรมย์---
2 เลือกสิ่งใหญ่ๆ สักอย่างที่อยากจะทำในแต่ละปี โดยที่สิ่งนั้นต้องนำปีติมาสู่ตน
3 ตั้งใจที่จะมีความสุขเพียงเล็กน้อยในทุกเวลาของหนึ่งวัน โดยกลับมารู้สึกตัวทีจะมีความสุขเพียงเล็กน้อยวันละหลายครั้ง
4 ให้การนอนเป็นการสมมุติการตาย หรือทดลองตายทุกครั้ง
5 แบ่งเวลาให้เท่าเทียมเพื่อคุยกับคนอื่น ตนเอง ต้นไม้ ท้องฟ้า หมา แมว นก ฯลฯ
6 อย่าคิดว่าจะรอดตาย
----ขอให้การเดินทาง เป็นไปด้วยความรื่นรมย์---