วันอาทิตย์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2553
พันธนาการจากความคิดเคยชิน
วันหนึ่งไอน์สไตน์ถามนักเรียนในห้องเรียนว่า "มีคนซ่อมปล่องไฟสองคนกำลังซ่อมปล่องไฟเก่า พอพวกเขาออกมาจากปล่องไฟปรากฏว่าคนหนึ่ง ตัวสะอาด อีกคนหนึ่งตัวเลอะเทอะเต็มไปด้วยเขม่า ขอถามหน่อยว่าคนไหนจะไปอาบน้ำก่อน"
นักเรียนคนหนึ่งตอบว่า "ก็ต้องคนที่ตัวสกปรกเลอะเขม่าควันสิครับ"
ไอน์สไตน์พูดว่า "งั้นหรือ ลองคิดดูให้ดีนะ คนที่ตัวสะอาดเห็นอีกคนที่ตัวสกปรกเต็มไปด้วยเขม่าควัน เขาก็ต้องคิดว่าตัวเองออกมาจากปล่องไฟเก่าเหมือนกัน ตัวเขาเองก็ต้องสกปรกเหมือนกันแน่ๆเลย ส่วนอีกคนเห็นฝ่ายตรงข้ามตัวสะอาด ก็ต้องคิดว่า ตัวเองก็สะอาดเหมือนกัน ตอนนี้ผมขอถามพวกคุณ อีกครั้งว่า ใครที่จะไปอาบน้ำก่อนกันแน่"
นักเรียนคนหนึ่งพูดขึ้นมาด้วยวามตื่นเต้นว่า "อ๋อ ผมรู้แล้ว พอคนที่ตัวสะอาดเห็นอีกคนสกปรก ก็ต้องนึกว่าตนเองสกปรกแน่ แต่คนที่ตัวสกปรก เห็นอีกคนสะอาด ก็นึกว่าตนเองไม่สกปรกเลย ดังนั้นคนที่ตัวสะอาดต้องวิ่งไปอาบน้ำก่อนแน่เลย... ถูกไหมครับ..."
ไอน์สไตน์มองไปที่นักเรียนทุกคน นักเรียนทุกคน ต่างเห็นด้วยกับคำตอบนี้ ไอน์สไตน์จึงพูดขึ้น อย่างมีหลักการและเหตุผล "คำตอบนี้ก็ผิด ทั้งสองคนออกมาจากปล่องไฟเก่าเหมือนกัน จะเป็นไปได้อย่างไรที่คนหนึ่งสะอาด อีกคนหนึ่งจะสกปรก เมื่อความคิดของคนเราถูกชักนำจนสะดุด ก็จะไม่สามารถแยกแยะ และหาเหตุผลแห่งเรื่องราวที่แท้จริงออกมาได้..."
การคิดอย่างมีวิจารณญาณ อย่างหนึ่งที่หมายถึงการคิดเพื่อการตัดสินใจเลือกอย่างมีเหตุผล ซึ่งสุดท้ายคนที่คิดก็ต้องเลือกพร้อมชั่งน้ำหนักเหตุผล นั่นก็ไม่ได้หมายถึงผลจะออกมาแต่ด้านบวกเท่านั้น คุณภาพของผลการคิดนี้จะต้องได้จากการมีข้อมูลครบถ้วน และ การชักนำชี้ทางไปในทางที่ถูกที่ควร เครื่องชี้ทางหมายรวมถึงเครื่องชี้ทางภายนอก เช่น ทฤษฎี คำสอน บุคคล กรอบระเบียนกฎหมาย จารีต ค่านิยม ฯลฯ และเครื่องชี้ทางภายใน เช่น คุณธรรม แรงจูงใจ กรอบความคิด ภาพพจน์ต่อตัวเอง อำนาจในการเลือก ฯลฯ ด้วยความคุ้นชิดเราจะรู้สึกดีและยอมรับได้เมื่อใครก็ตามที่อ้างเหตุผลด้วยเครื่องชี้ทางเหล่านี้ แต่เครื่องชี้ทางเหล่านี้ยังซ่อนด้วยบทบาทที่สำคัญกว่าคือ การพันธนาการ สุดท้ายเราจะติดแหงกด้วยความเป็นเหตุเป็นผลของมันซึ่งเป็นเพียงเปลือกแต่ละชั้นที่ห่อหุ้มความจริงเอาไว้
การปลดปล่อยตัวเองให้อิสระจากเปลือกทั้งหลายจนถึงที่สุด ก็จะถึงความจริงแท้ที่ไม่จำเป็นต้องกล่าวอ้างด้วยเหตุผลใดๆ แล้วผลที่ปรากฏออกมาจะมีคุณภาพโดยไม่ต้องสงสัยถึงความมีวิจารณญาณ
แต่การลอกเปลือกหอมออกที่ชั้นๆ นั้นอาจต้องแลกด้วยน้ำตา
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
หากเรารู้จักฟังอย่างไม่ตัดสินในทันที รู้จักหาข้อมูล นำสิ่งที่ได้มาคิดไคร่ครวญ เราอาจจะไม่ต้องเสียน้ำตาทุกครั้งก่อนที่จะได้เห็นความจริงก็เป็นได้ เพราะนั้นจะทำให้เรารู้ว่าก่อนจะเอาหอมมาหั่นหรือลอกเปลือกเราควรแช่หอมในช่องแช่แข็งก่อนครึ่งชั่วโมง หรือแช่น้ำอุ่นประมาณ 2-3 นาที
ตอบลบเป้าหมายเดียว แต่มีหลากหลายหนทางที่จะไปถึง เราเองที่จะเป็นคนเลือก....เลือกอย่างใคร่ครวญ
ตอบลบการอธิบาย ตรรกะ ขั้นสูง..
ตอบลบไอสไตน์..
"คุณจะหาตรรกะ พบก็ต่อเมื่อคุณสลัดหมากทั้งหมดที่คนอื่นเขาจัดฉาก วางล่อคุณไว้ ออกไปได้เสียก่อน"
:>
ตอบลบอ่านแล้วให้ข้อคิดที่ดีมากๆ ขออนุญาตนำไปเผยแพร่ต่อนะครับ
ตอบลบ