ติดตามเรื่องราว

..เรียนรู้ จากความยาก..-
บางทีการทำให้เส้นทางสู่ความจริงคดเคี้ยวมากขึ้นสักหน่อยเพื่อให้เกิดระทางที่ยาวไกลขึ้นอาจจะเป็นสิ่งดีสำหรับชีวิตที่ต้องการเวลากับการค้นหาความหมาย นั่นล่ะ -PBL




วันพฤหัสบดีที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2553

สิ่งที่เราไม่เคยเจอ จะเข้ามาท้าทายคนรุ่นต่อจากเรา

  
    หนึ่งในคำถามที่ผู้ปกครองเหวี่ยงเข้าใส่โรงเรียนคือ   “เด็กของเราจะแข่งขันในสังคมได้ไหม?”   นั่นอาจจะมีความหมายที่ซ่อนในคำถามนี้อีกทีคือ   “พวกเขาจะชนะไหม?”
    สำหรับผมมันเป็นคำถามที่ยาก   เพราะเป็นเรื่องยากมากที่จะคาดการณ์ว่าอีก 10-20 ปี ข้างหน้าพวกเขาจะเผชิญกับปัญหาอะไร  คงไม่ใช่ปัญหาที่เรากำลังเผชิญอยู่ตอนนี้ หรือถ้าใช่ก็อาจจะเป็นส่วนน้อย เพราะโลกพลิกผันเปลี่ยนแปลงเร็วเหลือเกิน  เช่น 
      - สภาพแวดล้อมและภูมิอากาศของโลกเข้าสู่ขั้นวิกฤตจนใครก็ไม่อาจคาดเดาได้ว่าพรุ่งนี้เราจะเจออะไร   อาจเป็น  คลื่นความร้อน  คลื่นความหนาวเย็น  สภาพพายุอันรุ่นแรง  สภาพการขาดแคลนอาหารจากความแห้งแล้ง สภาพอากาศที่ไม่บริสุทธิ์  เชื้อโรคใหม่ ฯลฯ
      - สภาพความเหลื่อมล้ำทางสังคมที่มีสูงโดยมีคนจำนวนน้อยนิดที่ถือครองทรัพย์สินส่วนใหญ่ของโลก   คนส่วนใหญ่ของโลกจึงยากจนแร้นแค้น  โดยธรรมชาติของทุกสิ่งเมื่อเสียสมดุลมันก็จะมีแรงที่จะทำให้เกิดสมดุลใหม่  ซึ่งเราไม่สามารถคาดการณ์ออกเช่นกันว่าสมดุลใหม่ทางสังคมนั้นคืออะไร  แต่ที่เห็นตอนนี้แรงกระทำเพื่อการปรับสมดุลได้ทำงานของมันแล้ว  การเสียสมดุลทางสังคมจะสร้างความแตกแยก  จะเกิดความสูญเสียจากการแก่งแย่งและทำร้ายกัน  จะมีแต่ความหวาดระแวงไม่สามารถที่จะไว้ใจกันได้  นอนต้องปิดประตูล็อคตัวเองไว้  จะไปไหนมาไหนก็กลัวการถูกทำร้าย  สุดท้ายจะมีแต่ความอึดอัดบีบคั้น และชีวิตก็ไม่มีความสุข
    - ค่านิยมต่อความดีเปลี่ยนไป  ไม่ได้หมายถึงความดีงามเปลี่ยนไป   สังคมเกิดค่านิยมกับการนับถือคนรวย  หรือการสยบยอบต่อผู้มีอำนาจ   เกิดค่านิยมด้านวัตถุรูปลักษณ์ เช่น  เด็กวัยรุ่นอายที่จะควักโทรศัพท์มือถือราคาถูกออกมาโทร  จะรู้สึกไม่มั่นใจถ้าไม่ได้โกรกผมให้แดงเหมือนเด็กญี่ปุ่นหรือไม่ได้โปะเครื่องสำอางราคาแพง   บางคนใช้เวลาวันละหลายชั่วโมงเพื่อแต่งตัว  นั่นอาจจะบ่งบอกถึงสภาพผู้คนที่มองภาพพจน์ในตัวเองต่ำ หรือ มองไม่เห็นคุณค่าในตัวเองมากพอที่จะเป็นตัวเอง  บางคนถึงขนาดรู้สึกว่ารองเท้าหลายสิบคู่ที่มีไม่มีคู่ใดสวยเลย  บางคนก็ไม่กล้าสะพายกระเป๋าถ้าไม่ใช่ยี่ห้อจากฝรั่งเศส อย่างน้อยขอให้เป็นของปลอมก็ยังดี    เมื่อรู้สึกว่าเงินคือทุกอย่างการถูกล่อลวงทางด้านวัตถุจะเกิดได้ง่ายแล้วเรื่องเหล่านี้ก็จบลงด้วยการหาเงินในทางไม่ชอบ  เช่น การขายตัว   การโจรกรรมมีให้เห็นจนดาษดื่น   นอกจากนี้ วิถีชีวิตปัจจุบันยังผลักเด็กๆ ออกห่างจากธรรมชาติที่แท้จริงมากทุกที  ถูกปลูกฝังให้ต้องเข้าเรียนในเมือง  ทำงานในเมือง  กินอาหารในร้าน  ซื้อของในห้าง  เท่ากับว่าเขาได้ติดเบ็ดอย่างจัง

    กลับมาที่คำถามว่า   “พวกเขาจะชนะไหม”   ผมไม่อาจให้คำตอบอย่างผลีผลาม  คำตอบต้องผ่านการใคร่ครวญให้ดี  ผมอยากให้ทุกคนได้ประมวลประสบการณ์ของตัวเอง  เฝ้าสังเกตสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัวแล้วใคร่ครวญหาคำตอบ  คำตอบจะต้องไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการแต่ต้องเป็นสิ่งจำเป็นจริงๆ ต่อเด็กๆ 
ซึ่งเราอาจต้องตอบคำถามเหล่านี้ก่อน
    “พวกเขาจะสู้กับอะไรหรือกับใคร?  กับเพื่อนในชั้น  กับคนในจังหวัด  กับคนทั้งโลก  หรือ เพียงต่อสู้กับตัวเอง”
“พวกเขาจะต่อสู้หรือแข่งขันกันด้วยเรื่องใด?  ความรู้  ทรัพย์สิน ตำแหน่ง  การมีชีวิตรอด หรือ ความสุข  หรือ อะไร?
            
     หนึ่งในหลายๆ  สิ่งที่โรงเรียนต้องพยายามทำ และให้ความสำคัญกว่าความรู้และคะแนน  เพื่อให้เป็นความพยายามทำในช่วงเวลาที่มีค่าที่สุดของเด็ก   เป็นช่วงเวลาที่ไม่อาจเรียกคืนได้  ซึ่งเป็นพื้นฐานที่จำเป็นที่เขาจะใช้ตลอดชีวิต  สิ่งนั้นคือ 
การทำให้เด็กๆ ได้เห็นคุณค่าในตัวเอง  เห็นคุณค่าในคนอื่น  ได้เห็นคุณค่าของการมีชีวิต   เห็นความหมายของการอยู่ด้วยกันอย่างภารดรภาพ    มีความสามารถในการคิดไตร่ตรองอย่างมีวิจารณญาณเพื่อให้เห็นถึงสิ่งจริงสิ่งลวงได้ด้วยตัวเอง   การรู้สึกสัมผัสได้ถึงความรักและใช้ออกไปอย่างมีคุณภาพ   การปลดปล่อยให้เป็นอิสระจากการถูกครอบ  การมีความสุขในขณะที่มีชีวิต  และ การยกระดับจิตให้สูงขึ้น
     ผู้ที่กำลังเติบโตทุกคน กำลังถูกท้าทายจากปัญหานานาและใหม่ๆ ถั่งโถมใส่ทุกๆ วัน ความแข็งแกร่งข้างใน และ ความสามารถในการคิดอย่างมีวิจารณญาณเพื่อให้คำตอบกับตนเองจะทำให้เขารอดพ้นไปได้ด้วยดี  

3 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ17 กันยายน 2553 เวลา 07:47

    ทุกครั้งที่เราผ่านอุปสรรคหนึ่งอย่างได้ ความเข้มแข็งเราก็จะเพิ่มทวีความแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ

    ขอบคุณครูใหญ่ครับ...

    ตอบลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ17 กันยายน 2553 เวลา 13:24

    สิ่งหนึ่งที่ใครก็ไม่สามารถแย้งชิงไปจากเราได้นั้นก็คือ อำนาจในการเลือก
    สุดท้ายแล้วทุกคนมีสิทธิ์เลือกที่จะทำ หรือเลือกที่จะอยู่อย่างไร
    อย่าลืมว่าทุกอย่างเราคือคนเลือก ไม่ใช้พระเจ้า

    ตอบลบ
  3. ไม่ระบุชื่อ18 กันยายน 2553 เวลา 06:42

    เชื่ออยู่อย่างหนึ่งว่า เหตุดี ผลต้องดี

    ตอบลบ