ผมเห็นครูบางคนที่ให้เด็กเปียผมให้
นวดให้ ทำงานให้ครู หรือครูทำงานให้เด็ก ผมคิดว่าเบื้อหลังพฤติกรรมเหล่านั้นน่าจะเกิดจากวิธีการคิดของครูอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้
ระดับที่ 1
ไม่ได้จัดการตัวเองก่อนที่จะมาถึงโรงเรียนเลย อาจจะตื่นสาย
มีนิสัยขี้เกียจ ไม่มีสำนึกตรึกตรองเรื่องหน้าที่ หรือไม่มีความสามารถที่จะทำให้ตัวเองให้ดูดี
เลยต้องให้เด็กๆ ช่วยแก้ขัดไปก่อน
ระดับที่ 2 ครูยังคิดว่าตนเองเป็นผู้มีอำนาจ และเด็กคนนั้นอยู่ใต้อำนาจ
เป็นประเภทซาดิสม์ มาโซคิสม์ เป็นกระบวนการเถลิงอำนาจของครูและสร้างความพึงพอใจต่อการอยู่ใต้อำนาจของเด็ก วิธีคิดแบบนี้อันตราย เพราะเป็นการสานต่อแบบแผนของอำนาจ
ทั้งจะสร้างคนประเภทศิโรราบต่ออำนาจมากกว่าการเคารพในคุณค่าในตัวเอง เขาจะไม่กล้าเป็นอิสระ ไม่เป็นอิสระ
และจะถูกครอบงำด้วยความคิดความเชื่ออย่างใดอย่างหนึ่งเสมอ
ระดับที่ 3 เกิดจากทั้งครูและเด็กคู่นั้นชอบกันเป็นพิเศษ
จึงสร้างกิจกรรมเพิ่มเติมสัมพันธภาพต่อกันและกัน
วิธีนี้เกิดขึ้นเพราะฉันทาคติ ซึ่งเป็นอคติแบบหนึ่ง เด็กคนอื่นๆ ส่วนใหญ่จะโดนผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อม
การเรียนรู้จะไม่ได้เกิดอย่างเต็มที่ที่ควรจะเป็น ชั้นเรียนชั้นนั้นก็จะเกิดสภาวะเหมือนปรากฏการณ์พิกมาเลียน
ระดับที่ 4
ครูตั้งใจทำอย่างนั้นเพื่อให้เด็กได้ฝึกการเป็นผู้รัก
แทนที่จะเป็นผู้ถูกรักอย่างเดียว
ทักษะของการเป็นผู้รักหรือการรักต้องการการฝึกฝนเช่นกัน เพื่อให้การแปลงจากความรู้สึกภายในให้การเป็นการปฏิบัติการของความรัก(Action) ครูที่มาถึงขั้นนี้นับว่าจิตสูง มีความเข้าใจต่อความรักอย่างแท้จริง
มีความเข้าใจต่อชีวิตอย่างแท้จริง และ รู้ด้วยว่าควรฝึกฝนกับเด็กแต่ละคนอย่างไร ให้โอกาสเด็กทุกคน
เป็นด้วยการเสียสละตนเองเพื่อการฝึกฝนเด็ก และเป็นไปโดยปราศจากอคติ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น