ติดตามเรื่องราว

..เรียนรู้ จากความยาก..-
บางทีการทำให้เส้นทางสู่ความจริงคดเคี้ยวมากขึ้นสักหน่อยเพื่อให้เกิดระทางที่ยาวไกลขึ้นอาจจะเป็นสิ่งดีสำหรับชีวิตที่ต้องการเวลากับการค้นหาความหมาย นั่นล่ะ -PBL




วันจันทร์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

ปัญญาภายใน1 (ฐานความเชื่อใหญ่)


โรงเรียนคือส่วนหนึ่งของกระบวนการนำการศึกษาเข้าไปสู่ผู้คนอย่างเป็นรูปแบบ    รูปแบบโรงเรียนก็เป็นกรอบชนิดหนึ่งที่อาจจะครอบงำเราไว้อีกชั้นก็ได้หากมองไม่เห็นสิ่งสำคัญในหน้าที่ที่โรงเรียนควรเป็น  โรงเรียนส่วนใหญ่ติดอยู่ในวังวนของการสร้างความเป็นเลิศทางวิชาการ   การแข่งขัน  การเปรียบเทียบ  การวัดความรู้  การตีค่าอย่างผิวเผิน  การใช้อำนาจในเชิงควบคุม  การกระตุ้นความอยากหรือความกลัว  สิ่งเหล่านี้ยิ่งทำให้จิตวิญญาณของผู้เรียนยิ่งตีบตัน 
โรงเรียนควรเป็นสถานที่ที่จะเกื้อหนุนให้ครูและผู้เรียนได้เบ่งบานในความดีงามทั้งต่อกันและกัน และ ต่อสรรพสิ่ง    เป็นที่สร้างกระบวนการเรียนรู้อย่างตื่นรู้ให้แข็งแกร่ง   การเรียนรู้อย่างตื่นรู้จะนำไปสู่ปัญญาซึ่งจะปลอดปล่อยตัวเองให้เป็นอิสระได้ในที่สุด  ความเป็นอิสระไม่ได้หมายถึงได้ดั่งใจทุกอย่างแต่หมายถึงสภาวะที่ปลอดโปร่งและเป็นสุข   เป็นสภาวะที่อยู่ด้านใน
ในสภาวะที่ยังอยู่ในที่ครอบที่เหมือนกบในกะลาแคบๆ   เราจะถูกจำกัดศักยภาพ  มองเห็นได้แคบ เห็นแก่ตัวเอง  มองไม่เห็นความเชื่อมโยงของทั้งหมด  รู้สึกอึดอัดบีบคั้น  และ เป็นทุกข์
เมื่อออกนอกกะลาครอบ  เราจะอิสระ ปลอดโปร่ง  เห็นกว้าง  และจะสามารถเชื่อมโยงตัวเองกับสรรพสิ่งได้ในที่สุด  ขณะนั้นปีติสุขก็บังเกิดขึ้น
การตื่นรู้ และ ความกล้าหาญ จะช่วยทลายกรอบให้เราออกนอกกะลาได้
กรอบความคิดหลักของเราที่ถูกหล่อหลอมไว้ในจิตใต้สำนึก  ซึ่งจะกลายเป็นฐานความเชื่อใหญ่และมาตรวัดภายในเรา   ฐานความเชื่อใหญ่นี้จะทำหน้าที่กำกับชีวิตเราตลอดมาโดยที่เราไม่รู้ตัว    ทั้งบุคลิกภาพ  การกระทำและความคิดที่เราแสดงออกไป    แน่ล่ะ  เราจะเชื่อว่าถูกต้องเสมอทั้งนี้เพราะการเทียบเคียงหรืออ้างอิงกับมาตรวัดของเราเอง   ถึงแม้บางครั้งสิ่งนั้นอาจไม่ตรงกับความเป็นจริงก็ตาม    นั่นคือบางครั้งเราอาจจะถูกหลอกด้วยกรอบคิดหลักของเราเอง   เราต้องตื่นรู้และกล้าหาญที่จะยอมรับว่าสิ่งที่เราทำหรือสิ่งที่เราคิดนั้นไม่ถูกต้องเสมอไป  การรับรู้และการเรียนรู้สภาพการณ์ที่เปลี่ยนไปจะช่วยให้เราสามารถปรับฐานความเชื่อใหญ่ภายในตัวเรา  เพื่อให้หลุดจากกรอบความเชื่อเดิมๆ ได้
การมองหาทางเลือกใหม่ๆ  และการสร้างโอกาสให้ปรากฏการณ์ใหม่ๆ ได้เกิดขึ้นโดยที่ไม่เร่งรีบตัดสินความเป็นไปได้จะเป็นอีกทางที่จะปรับกรอบความคิดหลักและฐานความเชื่อใหญ่ให้ตรงกับความจริงของโลกที่เปลี่ยนไปได้มากขึ้น   วิธีการดังกล่าวไม่ได้หมายถึงการมุ่งโจมตีกรอบความคิดเก่า  แต่เพื่อให้มีทางเลือกหรือให้เห็นมุมมองหรือโอกาสอื่นๆ    การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวเราสามารถทำให้เกิดขึ้นได้ด้วยตัวเองเมื่อเราตื่นรู้และรู้ตัวได้เท่าทันกับการถูกหลอกจากสิ่งที่อยู่ในตัวเราเอง
ด้วยเหตุนี้  แนวคิดโรงเรียนนอกกะลา  จึงได้เกิดขึ้น   เราพยายามมองหาโอกาสให้ปรากฏการณ์ใหม่ทางการศึกษาได้เกิดขึ้น     จากอดีตถ้าเรามองย้อนกลับแล้วใคร่ครวญอย่างเป็นธรรมเราก็จะพบว่าทุกๆ สิ่ง ทุกๆ อย่างมีการวิวัฒน์มาเป็นลำดับพร้อมกับการวิวัฒน์ทางสมองของมนุษย์    ความรู้ความเข้าใจ  แนวคิด และ วิธีการของแต่ละอย่างในแต่ละช่วงเวลาก็เหมาะกับสภาพสังคม สภาพความเป็นอยู่ในช่วงเวลานั้นๆ   แต่ในทางการศึกษาไม่ว่าจะเป็นกรอบคิด และวิธีการ  เราวิวัฒน์ได้ช้ากว่าสภาพสังคมและสภาพการดำเนินชีวิตที่เปลี่ยนไป  การศึกษาต้องสนองตอบให้เท่าทันกับความต้องการและความจำเป็นของสภาพสังคมหรือสภาพการดำเนินชีวิตของผู้คน  
เริ่มต้นจากการเปิดประสาทสัมผัสทั้งมวลเพื่อรับรู้สภาพที่เรากำลังเผชิญหน้าอยู่  ณ ปัจจุบัน    เผชิญหน้าและความท้าทาย    การปรับเปลี่ยนกรอบความคิดหลักและฐานความเชื่อใหญ่ในจิตใต้สำนึกบางครั้งอาจต้องน้อมรับความเจ็บปวดจากการที่ต้องรับรู้ว่าสภาพความเป็นจริงไม่ได้เป็นจริงอย่างที่เรารู้ 
การตระหนักต่อการรับรู้ให้เท่าทันข้างนอกที่เปลี่ยนไปมีความจำเป็นต่อการปรับสมดุลในตัวเราในระดับที่สูงขึ้น  ซึ่งจะส่งผลต่อการกระทำต่างๆ  ได้อย่างประณีตยิ่งขึ้นเช่นกัน

กรุงเทพธุรกิจ  ฉบับ 75  30 ต.ค.-5 พ.ย. 2554

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น