วันจันทร์ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2553
หงายกะลาพัฒนาครู 2
วันที่ 26 ก.ค.2553 เราเริ่มกันแต่เช้า ด้วยการให้ทุกคนนอนฟัง นพ.เปี่ยมโชค ชลิดาพงศ์ บรรยายเกี่ยวกับการกินกับสุขภาพ โดยเฉพาะพิษภัยที่มาจากน้ำตาลและนมวัว ครูจึงถึงบางอ้อเกี่ยวกับทำไมจึงมีของว่างเบาๆ อย่างเมื่อวาน และก็มีอาหารที่เน้นผักจากธรรมชาติ ถึงตรงนี้ครูก็คงไม่ได้คาดหวังที่จะมีของว่างเป็นอย่างอื่นอีกแล้ว หลังจากนั้นครูบางกลุ่มงานก็นำเสนอความรู้นานาทั้งที่ได้จากการทำงานและจากที่ไม่เกี่ยวข้อง
ภาคบ่ายเราเริ่มด้วยการนอนฟังนิทานจากคุณแต้วผู้ที่คลุกคลีอยู่กับวงการนิทานมานาน รวมถึงการสนทนาถึงหนังสือดีๆ หลายเล่ม และจบวันด้วยการนอนดูสารคดีที่ตีแผ่ระบบการจัดการอาหารของโลกที่เราคาดไม่ถึง เป็นระบบผูกขาดการผลิตอาหารของบริษัทใหญ่และซ่อนเร้นไว้ด้วยอันตรายมากมายภายใต้ภาพลักษณ์ที่ดูดี รวมถึงการปรับปรุงพันธุ์พืชและพันธุ์สัตว์เพื่อครอบครองสิทธิ์แบบผูกขาด ทำให้ครูทุกคนมีอะไรมากมายที่ต้องให้คิดต่อเพื่อสื่อสารให้เด็กๆ รวมทั้งคนอื่นๆ ต้องร่วมกันเฝ้าระวังอันตรายจากอาหารที่เรากินทุกมื้อ
วันที่ 27 ก.ค.2553 เราเริ่มกันแต่เช้าเช่นเดิม แต่วันนี้เรามานั่งล้อมวงกันที่ร่มเงาของบ้านดิน ครูผลัดเปลี่ยนกันถ่ายทอดเรื่องราวของเด็กๆ ที่แต่ละคนประสบมา เราได้ขำกันเป็นระยะๆ ตั้งแต่ขนาดอมยิ้มถึงการระเบิดหัวเราะ จนเราลืมเวลาอาหารว่าง แล้วครูทุกคนตั้งใจจะเขียนรวมกันเป็นเล่มให้ได้อ่านกันต่อไป
ราวเที่ยง หลวงพี่ทั้งหญิงชายซึ่งเป็นสานุศิษย์ของหลวงปู่ติช นัท ฮันห์ จากหมู่บ้านพลัมจำนวนสิบรูปก็มาถึง พระฉัน เรากิน อาหารกลางวันด้วยอาหารเจด้วยกันอย่างสงบ หลวงพี่นำเราสู่สติตั้งแต่บ่ายโมงจนเกือบจะหกโมงเย็น ด้วยการร้องเพลง การนอนผ่อนคลายอย่างสมบูรณ์ การสนทนา พิธีชา และ การเดินชมโรงเรียนอย่างมีสติ ผมเชื่อว่าครูทุกคนรู้สึกได้ถึงปรากฏการณ์พิเศษที่เกิดขึ้นภายในตนเองเมื่อได้ผ่านพิธีกรรมต่างๆ อย่างเนิบช้า เราหลงใหลรูปแบบนี้อย่างลืมตัว
หลังข้าวเย็นครูแม้จะเหนื่อยอ่อนแต่ต้องได้กลับมาที่ห้องอบรมเพื่อนอนดูเรื่องราวชีวิตของคุณเงาะ (คนค้นคน) ผู้สร้างคนบนวิถีการปั่นจักรยาน
วันที่ 28 ก.ค.2553 ทุกคนกินข้าวเช้าที่อร่อยและมีคุณค่าอย่างทุกเช้า สายวันนั้นผมครูทุกคนต้องได้ออกอาการตื่นเต้นดีใจระคนประหลาดใจอีกครั้งเมื่อได้พบคุณเงาะตัวจริง ครูช่วยกันซักถามแล้วเราก็ได้คำตอบแบบโดนใจกลับไปจนเต็มอิ่ม
กระบวนการสี่วันอาจดูยาวนานออกจะเยิ่นเย่อ แต่ด้วยจังหวะที่วางไว้แบบหลวมและการเปิดใจร่วมมือของครูทุกคนทำให้การเคลื่อนของมวลด้านในเกิดขึ้นได้อย่างต่อเนื่องทั้งระดับบุคคลและทั้งกลุ่ม อันจะนำไปสู่การพัฒนาบางกระบวนการในโรงเรียนฯ เพื่อยกระดับด้านจิตวิญญาณของผู้เรียนต่อไป
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ประสบการณ์ดีๆ 4 วันดีๆ ที่ครูใหญ่คัดเลือกมาลงสู่ครูนอกกะลาทุกคน หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว..
ตอบลบ4 วันสำหรับการเรียนรู้ อาจเหมือนเวลาสั้นๆ แต่ก็ทำให้พวกเรา(ครูสำนักนอกกะลา)ได้หงายกะลา (ดังเช่นชื่อโครงการ) ได้เปิดมุมมองใหม่ๆ หลากหลายด้าน ทั้งทางโลกและทางธรรม ทั้งเพื่อตนเองและเพื่อสังคม ซึ่งสิ่งเหล่านี้เรียงร้อยกันได้อย่างลงตัว และปลุกการตื่นรู้ให้เราได้ช่วยกันสรรค์สร้างสิ่งดีงามทั้งต่อตนเองและสังคมต่อไป
ตอบลบครูใหญ่ (วิเชียร) คือผู้สร้างอย่างแท้จริง ทุกๆ วันทำให้เราได้ใคร่ครวญ ได้เห็นตัวตนว่าเราเล็กนิดเดียวเอง เรามาแบบไม่มีอะไรติดตัวมา เวลาไปก็ไปตัวเปล่า นั้นไม่สำคัญเท่าช่วงเวลาที่เราอยู่เราอยู่อย่างไร อยู่เพื่อกอบโกยผลประโชน์มาเป็นของฉัน พวกฉัน หรืออยู่เพื่อสร้างตำนานสร้างคน สร้างโลก สี่วันที่เราได้นั่ง นอน กิน ยิ้ม หัวเราะ ร้องให้ด้วยกัน ทำให้เราได้รู้ว่าการที่คนๆ หนึ่งจะเห็นคนค่าในตัวเู่อง เขาต้องการให้คนอื่นยอมรับในตัวเขา และได้เห็นว่าจริงๆ แล้วเราทุกคนอยู่ในกันและกัน ต่อเติมกันและกัน
ตอบลบขอบคุณโอกาสดีดีที่ทำให้เราได้มาอยู่ร่วมกัน ขอบคุณทุกๆ โอกาสค่ะ
ครูต๋อย
ศิษย์นอกกะลา45
ตื่นตา แปลก สงบ อิ่มกาย อิ่มใจ มีครบทุกอย่างสำหรับหงายกะลาพัฒนาครูตลอดทั้ง 4 วันนี้ รู้สึกอิจฉาตัวเอง ที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของทีมจริงๆ
ตอบลบครูจอย
กับสี่วัน กับบทความที่ครูใหญ่ถอดออกมา ทำให้เรารู้ว่าตัวเงเล็กจัง รู้สึกว่าทุกคนมีค่าและสำคัญกับเรามาก เราได้อมยิ้ม ได้หัวเราะ ได้ร้องให้ ได้ออกกำลังกาย ได้ดูแลสุขภาพหรือได้มีวันนี้ ก็ล้วนแล้วแต่เกิดได้เพราะทุกคนทำให้เกิด ลำพังตัวเราเองคนเดียว แม้จะอยู่สูงแค่ไหนมั่นใจแค่ไหนก็ตาม หากเรายืนเพียงลำพังไม่อาจทำให้เกิดเสียงหัวเราะ เกิดร้อยยิ้มที่เปี่ยมด้วยความสุขอย่างแน่นอน
ตอบลบขอบคุณเพื่อนครูนอกกะลา พี่เงาะ พี่เอก พี่แต้ว และภิษุ ภิกษุณี แห่งหมู่บ้านพลัม ขอบคุณทุกสรรพสิ่ง
ครูต๋อย
ศิษย์นอกกะลา45
ขอบคุณสำหรับพื้นที่ดีๆ ขอบคุณใจทั้งหมดที่มีให้
ตอบลบจตุพร
ขอขอบคุณทุกท่านที่ร่วมสร้างปรากฏการที่แปลกใหม่และน่าประทับใจ ตลอดทั้ง 4 วันนี้ คือช่วงเวลาที่มีคุณค่าอยากบอกว่า ดีใจที่ได้มีโอกาสร่วมงานและได้สัมผัสกับนักปราชญ์หลายๆท่าน ซึ่งผสมผสานแนวคิดสู่การนำไปใช้ได้จริงอย่างลงตัว
ตอบลบถ้าเปรียบกับหนังสือคงเป็นหนังสือรวมสาระน่ารู้ที่มีเนื้อหากระชับ อ่านง่าย แต่ต้องตั้งใจอ่านและใช้เวลากับมัน
ตอบลบการเรียนรู้และพัฒนาตนเองจากวิทยากรผู้มากด้วยประสบการณ์และจิตใจที่เปี่ยมด้วยเมตตา การดูหนังดีๆที่ไม่เคยได้ดูมาก่อน การสัมผัสถึงมิตรภาพที่สะอาด บริสุทธิ์ สามารถพลิกชีวิตของครูคนหนึ่งได้เลยทีเดียวค่ะ
ปิติ อิ่ม มีความสุข เบิกบานตลอดวันครับ
ตอบลบ