ต้นเดือนเมษายนผมพาครูน้องๆไปดูงานการพัฒนาการสอนคณิตศาสตร์ ได้พูดคุยกับผู้บริหารที่ร่วมอยู่กับการเปลี่ยนแปลงการศึกษาของประเทศมานาน. เขาเล่าอย่างภูมิใจว่าสิงคโปร์เพิ่งเป็นประเทศอิสระมาได้เพียง50ปีแต่เขา กลายเป็นอันดับต้นๆของการศึกษาที่มีคุณภาพ แน่นอนล่ะว่าเขาให้ความสำคัญกับคุณภาพครู. มีระบบการพัฒนาครูอย่างเข้มข้นทั้งเชิงเนื้อหาและเชิงเทคนิค เขามองช็อตต่อไปว่าครูของเขาจะกลายเป็นทรัพยาการทางการศึกษาที่โลกต้องการ (อย่าลืมว่าสิงคโปร์ไม่มีทรัพยากรอะไรนอก จากคน)คล้ายจะบอกว่านี้จะเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ของประเทศ. เขาไปไกลถึงจะสร้างครูที่มีคุณภาพระดับโลกแล้ว ไม่สาละวนอยู่กับโครงสร้างและอำนาจอย่างการศึกษาไทย
ก่อนหน้านี้สิงคโปร์ถูกแย่งชิงในฐานะเป็นเมืองท่าที่เป็นจุดเชื่อมต่อทางการ ค้าของสองซีกโลกเท่านั้น. ธรรมชาติบนเกาะจึงถูกไล่ต้อนและถูกทับถมด้วยตึกรามทุกกระเบียดนิ้ว. ด้วยที่เป็นเมืองท่าเมืองผ่านจึงมีผู้คนหลากหลายเผ่าพันธุ์เข้ามาอาศัย
ความเป็นอัตลักษณ์ความเป็นสิงคโปร์จริงๆ ไม่มี ทุกเผ่าพันธุ์ยังเป็นตัวเอง ทั้งจีน อินเดีย และมาเลย์ บนข้อจำกัดของความแตกต่าง แต่สิงคโปร์ก็สร้างชาติขึ้นมาได้ด้วยที่มีผู้นำที่เก่ง กล้าหาญ และซื่อสัตย์. การสร้างชาติจากความแตกต่างหลากหลายให้กลายเป็นความเป็นหนึ่งเดียวต้องอาศัย ความมานะอย่างยิ่ง
_เมื่อสิบปีก่อนเวลาเราขึ้นโดยสารMRT เราก็จะได้ยินประกาศเป็น4ภาษาเสมอทั้งอังกฤษ จีนกลาง มาลายู และทมิฬ แต่ปัจจุบันเสียงประกาศเป็นภาษาเดียวคืออังกฤษ เห็นได้ชัดว่าประชากรสามารถใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษากลางได้ดีขึ้นแบบเห็นได้ ชัดจริงๆ
แน่นอนล่ะว่าหลักสูตรของกระทรวงก็ให้ความสำคัญกับการเรียนภาษาแม่มากกว่า ภาษาอังกฤษซึ่งราว13คาบ/สัปดาห์(คาบละ30นาที) ส่วนภาษาอังกฤษราว 11คาบ/สัปดาห์. เขาให้เหตุผลว่าค่านิยม วัฒนธรรม ภูมิปัญญาของเผ่าพันธุ์นั้นๆ มีคุณค่าต่อการดำรงอยู่ของกลุ่ม จึงควรส่งต่อด้วยภาษาของตนเอง.
เขาไม่ได้ต้องการให้คนในชาติซึ่งมีเพียง5.5ล้านคนบนเกาะเล็กๆ ต้องเหมือนกัน. เขาให้แตกต่างและเห็นคุณค่าของความหลากหลาย แต่ให้ความสำคัญของความเป็นหนึ่งเดียวกัน คือการอยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืน อย่างสงบ สันติ เพื่อความมีเสถียรภาพของประเทศและของทุกคน
ชายทุกคนเป็นทหาร2ปี |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น