วันที่ 5 เมษายน 2558
เช้าวันอาทิตย์ที่ต้องแลกมา
ผมตื่นแต่เช้ามากในห้องคับแคบ
ของโรงแรมไร้ดาว ก็ในพื้นที่อันจำกัดของสิงคโปร์เราเลือกอะไรไม่ได้มากนัก
ก็เรามักเลือกใช้คำว่า "ต้องอดทน". แทนคำว่า "จำยอม"
ห้องพักคับแคบจนการอ่านหรือการเขียนของผมมันติดตันไปหมด
ผมออกมาเดินตั้งแต่ตะวันยังไม่โผล่
ลัดเลาะไปหลายถนนกะจะเก็บสะสมจำนวนก้าวไว้ตั้งแต่เข้าเพื่อวันนี้จะได้ถึง
หมื่นก้าว
แต่ความตั้งใจเบื้องหลังหวังไว้ด้วยว่าจะเจอร้านกาแฟยามเช้าสักร้าน
ข้อหลังนี้ยากจริง
ถนนยามเช้าวันอาทิตย์ร้างผู้คน ผมย่ำเดินวกไปเวียนมา
จนในที่สุดก็เจอร้านเล็กๆ ตรงหัวมุมถนน Liang Seah St.
สอบถามได้ความว่ามีกาแฟแบบโบราณแต่เสริฟพร้อมชุดอาหารเช้า
อันมีขนมปังและไข่ลวกสองฟอง ราคาราว 90 บาท
ผมถือว่าราคาถูกมากกับประเทศที่แทบทุกอย่างต้องนำเข้าแม้แต่น้ำล้างส้วม
ผลิตอะไรไม่ได้เลยนอกจากคน จึงเป็นเหตุผลที่เราควรมาดูการผลิตคน
อาจเอาไว้เป็นบทเรียนเท่านั้นไม่ควรหมายว่าต้องเลียนแบบ
อาหารเช้าดังภาพ ผมไม่ได้กินเพราะความหิวแต่กินเพราะอยากลองลิ้มรสดู เพื่อจะได้ซื้อเวลาสำหรับการครุ่นคิด
ขณะที่นั่งกินไป ครุ่นคิดอย่างเพลิดเพลินให้ทะเลแห่งความคิด
นกพิราบตัวหนึ่งก็โฉบบินลงมาจิกกินเศษขนมปังที่น่าจะเป็นเจ้าของร้านที่มา
วางเอาไว้ข้างๆ ร้าน มันคงหิว หรืออาจลูกของมันเองก็คงหิว
แต่อนิจจายังไม่ได้จิกกินเศษขนมปังเพื่อชะโลมความหิวเลยแม้เพียงชิ้น.
แต่เธอก็ต้องตะลึงลานเพราะแผ่นรองขนมปังนั้นติดกาว และกาวก็ติดปีกเธอ
เธอแตกตื่น รนรานดิ้นหนี้จากกับดัก แต่ยิ่งดิ้นยิ่งติดแน่น
ยิ่งดิ้นยิ่งอ่อนล้า ยิ่งดิ้นก็ยิ่งเจ็บปวด
ในที่สุดเธอก็หลุดรอดไปได้และกระเสือกกระสนคลานเข้าไปซบในพุ่มไม้
แต่ด้วยที่กาวได้ติดปีกข้างหนึ่งกับขาอีกข้างหนึ่งของเธอเอาไว้
ผมจึงแน่ใจว่าเธอจะบินไม่ได้อีกและในที่สุดคงตกตายไปดั่งใบไม้ใบหนึ่งที่
ร่วงหล่นลงบนถนน Liang Seah St.
ผมนึกสงสัยว่าเพื่อบางอย่างเราต้องแลกด้วยบางอย่างเสมอหรือ
วันศุกร์ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2558
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น